5.สวดมนต์เจริญภาวนาให้เป็นนิจ
การสวดมนต์ นั้น ยังผลประโยชน์คือ ช่วยทำจิตใจให้เบิกบาน ผู้ที่รักษา ศีล แล้วเมื่อเจอปัญหาต่าง ๆ พอ ได้ ทำการสวดมนต์ ก็จะทำให้จิตมีสมาธิ จดจ่ออยู่ที่ใดที่หนึ่งที่เดียว ทำให้เกิดความ นิ่ง จนสามารถที่จะเจริญ สติ ได้ที่เรียก พุทธานุสติ ธรรมานุสติ และสังฆานุสติ เป็นการระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย ดังที่กล่าวมาซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสิริมงคลระดับหนึ่งดังที่กล่าวมาแล้ว
ในพระพุทธศาสนา ซึ่งเน้นในเรื่องการใช้ปัญญาพิจารณาเหตุผล การสวดมนต์มีความหมายถึงหลักธรรม บทสอนใจมากกว่าจะเป็น เพียง ถ้อยคำที่ขลังหรือศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว หากจะตีความไปถึงถ้อยคำที่ขลังหรือศักดิ์สิทธิ์ให้ได้จริง ๆ ก็จะต้องอธิบายว่า บทสวดมนต์ใด ๆจะขลังหรือศักดิ์สิทธิ์และทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลได้อย่างแท้จริงนั้น ก็จะเกิดต่อเมื่อ “เมื่อนำคำสอนที่สวดมนต์นั้นไปสอนใจ นำไปเป็นข้อปฏิบัติอยู่เสมอ” นั่นเอง
การสวดมนต์ใด ๆ ขอให้เริ่มจาก แสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า ด้วยคำบูชาพระบรมศาสดาว่า “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ”
แปลโดยรวมว่า “ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น” เสียก่อน แล้วจึงตามด้วย บทสวดระลึกถึง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และ พระสังฆคุณ ให้ครบองค์พระรัตนตรัย จึงค่อยเลือก บทสวดมนต์ ที่อื่น ตามไปได้ซึ่งหากจะให้เกิดความเป็นสิริมงคลสูงยิ่งขึ้นไป ควรจะสวดบทชุมนุมเทวดาด้วย เสมือน เป็นการเชิญให้เทวดามาสดับฟังธรรมเพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้นไปอีกโดย กล่าวบทสวดว่า
“สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ
สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตาฯ”
เสร็จแล้ว เราอาจจะสวดบทสวดมนต์ที่ใช้สวดเป็นประจำ อย่างบทสวด พระคาถา ชินบัญชร หรือ บทพุทธชัยมงคลคาถา พาหุง มหากาฯ ก็ได้ ในที่นี้ ขอแนะนำ บทสวดมนต์มหามงคล ตาม วันเกิด ทั้ง 9 บท ผู้ที่นำไปใช้สวดขอให้ สำรวมจิตใจให้สงบนิ่ง ตั้งจิตให้บริสุทธิ์ที่สุดแล้วเริ่มสวดมนต์ไปตามลำดับ
บทสวดมนต์สำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ ( โมรสูตร)
“อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนาฯ”
ผู้ที่สวดมนต์บทนี้เป็นประจำจะทำให้ “แคล้วคลาดปลอดภัยในการเดินทาง” ในที่นี้รวมไปถึงการเดินทางทุกประเภท ไม่ว่า ขึ้นรถ ลงเรือ เครื่องบิน ไม่ว่าใกล้ไกลหากรักษาศีลและปฏิบัติการสวดมนต์บทนี้แล้วชีวิตจะมีแต่ความปลอดภัยอยู่เย็นเป็นสุข ไม่เป็นทุกข์ร้อน มีแต่ความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิต
บทสวดมนต์สำหรับคนเกิดวันจันทร์ ( อภยสูตร)
“ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ”
ผู้ที่สวดมนต์บทนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นบท “ขจัดรางร้ายให้กลายเป็นดี” เป็นการเตือนใจให้ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมอ เช่นบางคน ถูกจิ้งจกทัก ตุ๊กแกร้อง หรือได้เห็นนิมิตภาพที่ไม่ดี ไม่เป็นสิริมงคล กลัวจะเกิดเหตุเภทภัยกับตนหรือครอบครัว ก็ให้สวดมนต์บทนี้ไว้บ่อย ๆ และถึงแม้จะไม่มีนิมิตไม่ได้ถูกสัตว์ร้องทักอะไรก็ตาม ก็หมั่น สวดมนต์บทนี้ไว้ เป็นการเตือนสติอยู่เสมอ แล้วจะบังเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ดำรงตนด้วยความไม่ประมาท เอง
บทสวดมนต์สำหรับคนเกิดวันอังคาร (กรณียเมตตตสูตร)
“ยัสสานุภาวะโต ยักขา ยัมหิ เจวานุยุญชันโต สุขัง สุปะติ สุตโต จะ เอวะมาทิคุณูเปตัง เนวะ ทัสเสนติ ภิงสะนัง รัตตันทิวะมะตันทิโต ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ
กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะสันตินทริโย จะ นิปะโก จะ นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ สุขิโน วา เขมิโน โหนตุ เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ทีฆา วา เย มะหันตา วา ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา ภูตา วา สัมภะเวสี วา นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ พยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง เอวัมปิ สัพพะภูเตสุ
เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานิ อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุตติ อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิ นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณังอะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ ทัสสะเนนะ สัมปันโน นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติฯ”
ผู้ที่สวดบทสวดมนต์นี้ ซึ่ง ถือเป็นบทสวด “เมตตามหานิยม” ทำให้มีแต่คนรักคนชอบ แม้แต่ผี และเทวดาก็จะคอยปกปักรักษา จากเภทภัยหลากหลาย คุณไสยของต่ำก็จะไม่เข้ามากล้ำกราย การงานเจริญก้าวหน้าไม่ติดขัด เป็นสิริมงคลโดยแท้กับผู้ที่รักษาศีลและสวดมนต์บทนี้เป็นประจำ
บทสวดมนต์สำหรับผู้ที่เกิดวันพุธ กลางวัน ( ขันธสูตร)
“สัพพาสีวิสะชาตีนัง ยันนาเสติ วิสัง โฆรัง อาณักเขตตัมปิ สัพพัตถะ สัพพะโสปิ นิวาเรติ ทิพพะมันตาคะทัง วิยะ เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง สัพพะทา สัพพะปาณินัง ปะริตตันตัมะภะณามะ เห ฯ
วิรูปักเขหิ เม เมตตัง ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง อะปาทะเกหิ เม เมตตัง จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ เมตตัง เอราปะเถหิ เม เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา มา กิญจิ ปาปะมาคะมา
อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง ฯ”
บทสวดนี้ เป็นบทสวดที่มีความเป็นสิริมงคลในเรื่อง “คงกระพันปลอดภัย จาก สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย” หากเราต้องทำงานหรือมีเหตุเกี่ยวข้องกับสัตว์ร้าย สัตว์ที่ดุ หรืออะไรก็ตาม ก็ให้หมั่นสวดมนต์บทนี้ไว้นอกจากจะเป็นการป้องกันอันตรายที่เกิดจากสัตว์แล้ว หากรักษาศีลให้ดี สัตว์เหล่านั้นจะนำโชคมาให้ เป็นการสอนให้มีเมตตาและรักต่อสัตว์เสมือนรักตนเอง ผู้สวดมนต์บทนี้อยู่เสมอก็จะประสบความสุขความเจริญเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตโดยแท้
บทสวดมนต์สำหรับผู้ที่เกิดวัน พุธ กลางคืน (บทขัดอาฏานาฎิยปริตร)
“กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐสีติ สัตตธา เม ผะเลมุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ
กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐสีติ สัตตธา เม ผะเลมุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ”
บทสวดมนต์นี้ เป็นบทที่มีความเป็นสิริมงคลในเรื่อง “การแก้ไขความมืดบอด และแก้ไขในสิ่งที่ผิด” เป็นการเตือนตนให้รู้จักระมัดระวังในการกระทำการใด ๆต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หากรักษาศีลให้ดีและสวดมนต์นี้อยู่เสมอ ก็จะมีความเจริญไม่ติดขัดผิดพลาดใด ๆ ไม่ว่าจะทำงาน จะเรียน ก็จะมีสติรอบคอบแคล้วคลาดอุปสรรค ยังผลให้ผู้สวดที่รักษาศีลเสมอมีความสุขความเจริญเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตโดยแท้
บทสวดมนต์สำหรับผู้ที่เกิดวัน พฤหัสบดี ( วัฎฏกสูตร)
“ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร นิพพัตตัง โมระโยนิยัง เยนะ สังวิหิตารักขัง มะหาสัตตัง วะเนจะรา จิรัสสัง วายะมันตาปิ เนวะ สักขิงสุ คัณหิตุง พรัหมะมันตันติ อักขาตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เหฯ
อัตถิ โลเก สีละคุโณ สัจจัง โสเจยยะนุททะยา เตนะ สัจเจนะ กาหามิ สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง อาวัชชิตวา ธัมมะพะลัง สะริตวา ปุพพะเก ชิเน สัจจะพะละมะวัสสายะ สัจจะกิริยะมะกาสะหัง สันติ ปักขา อะปัตตะนา สันติปาทา อะวัญจะนา มาตา ปิตา จะ นิกขันตา ชาตะเวทะ ปะฎิกกะมะ สะหะ สัจเจ กะเต มัยหัง มะหาปัชชะลิโต สิขี วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ อุทะกัง ปัตวา ยะถา สิขี สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ เอสา เม สัจจะปาระมีติ ฯ”
บทสวดมนต์บทนี้ เป็นบทที่มีความเป็น สิริมงคลแก่ชีวิต ในเรื่อง “การอธิษฐาน” ใช้ในทางเมตตามหานิยม แต่ ก็มีข้อเตือนใจว่า ความปรารถนาที่ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้อง สมเหตุสมผลกับความดีที่ทำ หมายความว่า ความปรารถนาที่เราขอก็จะต้องเป็นไปในทางที่ดีงาม เหมาะสมกับกรรมที่ตนเองได้ทำเป็นประจำ ไม่ใช่ สวดมนต์บทนี้บ่อย ๆ เพียงเพื่อหวังจะอธิษฐานด้วยความละโมบ แต่ ไม่ยอมทำอะไรเลย อยากรวย ก็สวดเยอะ ๆแต่ไม่ยอมทำมาหากิน อย่างนี้ก็คงจะรวยไปไม่ได้ เป็นต้น คนที่ตั้งมั่นในศีล ขยันหมั่นเพียร ในการปฏิบัติตนเพื่อดำรงชีวิตที่ดี สวดแล้วจึงจะเกิดเป็น สิริมงคลกับชีวิตโดยแท้
บทสวดมนต์สำหรับคนเกิดวันศุกร์ (ขัดธชัคคะปริตต์)
“อัปปะสันเนหิ นาถัสสะ สาสะเน สาธุ สัมมะเต อะมะนุสเสหิ จัณเฑหิ สะทา กิพพิสะการิภิ ปะริสานัญจะ ตัสสันนะ มะหิงสายะ จะ คุตติยา ยันเทเสสิ มะหาวีโร ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ”
บทสวดมนต์บทนี้เป็นบทย่อ จาก บทสวดธชัคคสูตร ให้ความเป็นสิริมงคลในเรื่อง “การสงบใจ” เมื่อใดที่เกิดความรู้สึก หดหู่ใจ ต้องการความหวัง ต้องการกำลังใจ ขอให้สวดเพื่อเพิ่มกำลังใจในธรรมะ และ ชีวิต ก็จะมีแต่ความเป็นสิริมงคลมายังผู้สวดที่มีศีลและปฎิบัติตนทำความดีงามอยู่เสมอโดยแท้
บทสวดมนต์สำหรับคนเกิดวันเสาร์ ( อังคุลิมาลสูตร)
“ปะริตตัง ยัมภะณันตัสสะ นิสินนัฎฐานะโธวะนัง อุทะกัมปิ วินาเสติ สัพพะเมวะ ปะริสสะยัง โสตถินา คัพภะวุฎฐานัง ยัญจะ สาเธติ ตังขะเณ รัสสังคุลิมาลัสสะ โลกะนาเถนะ ภาสิตัง กัปปัฎฐายิ มะหาเตชัง ปะริตตันตัมภะณามะ เหฯ
ยะโตหัง ภะคินิ อาริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ
ทุติยัมปิ ยะโตหัง ภะคินิ อาริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ
ตะติยัมปิ ยะโตหัง ภะคินิ อาริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ”
บทสวดมนต์นี้ ให้ความเป็นสิริมงคลในเรื่อง “คลอดลูกปลอดภัย” โดยเมื่อครั้งพุทธกาล พระองคุลีมาล ได้สละเพศโจร มาออกบวชเมื่อไปบิณฑบาตชาวบ้านมีแต่ความหวาดกลัว และมีหญิงท้องแก่คนหนึ่งกลัวลนลานจนกระทั่งล้มไปทับรั้วไม้ และเกิดปวดท้องคลอด พระองคุลีมาลได้เห็นจึงแผ่จิตเมตตา พร้อมทั้งสวดมนต์บทนี้ให้ ทำให้เธอได้คลอดลูกชายได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย และบทสวดนี้จึงตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ไม่ว่าจะเป็นครรภ์แรกเกิดหรือภรรภ์ใด ๆจะเกิดความเป็นสิริมงคลปลอดภัยแก่เด็กในท้องและเด็กจะเกิดมาสมบูรณ์และเป็นคนดีว่านอนสอนง่ายอีกด้วย สำหรับหญิงที่ยังไม่ตั้งครรภ์ก็ควรสวดเอาไว้จะเป็นมงคลต่อสุขภาพด้านช่องท้อง คือไม่มีโรคภัยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร หรือ ระบบสืบพันธ์ หากผู้ที่มีศีลประพฤติธรรมอยู่เสมอนำมาสวดเป็นประจำก็จะนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิตโดยแท้
บทสวดมนต์สำหรับ ผู้ที่จำวันเกิดตนเองไม่ได้ ( ชัยปริตร)
“มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ
สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธิ เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆา….นุ…ภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม”
บทสวดมนต์ชัยปริตรนี้ มีความเป็นยอดสิริมงคล ในเรื่อง “เป็นมหาสิริชัยชนะในทุกวัน” ทำให้ผู้สวดประสบชัยชนะมีความสุขสวัสดี ถ้วนหน้า ไม่ว่าทำการงานใด ๆ จะเรียน จะสอบ เจรจาความต่างๆ ก็จะได้รับความสำเร็จทุกประการ ผู้มีศีลดี ปฏิบัติตนตั้งมั่นอยู่ในความดีอยู่เสมอ ยิ่งนำไปสวดก็จะเพิ่มความเป็นสิริมงคลอย่างมากมายมหาศาล โชคดีมีชัยตลอดไป
ในคัมภีร์ สมัตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัยปิฎก กล่าวระบุถึงการสวดมนต์บทต่าง ๆว่า
“สถานที่ที่อานุภาพแห่งพระปริตรเหล่านี้คือ รัตนปริตร เมตตาปริตร ขันธปริตร ธชัคคปริตร อาฎานาฎิยปริตร ขันธปริตร โมรปริตร เป็นไป ชื่อว่า อาณาเขตซึ่งมีแสนโกฏิจักรวาลเป็นที่สุด”
หมายความถึง อานุภาพของการสวดมนต์เหล่านี้ สามารถแผ่ออกไปได้กว้างไกลมาก เมื่อหมั่นตั้งใจสวดมนต์แล้ว เจตนาที่จะทำให้ตนเองและผู้อื่นมีความสุขไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัยที่เราจะทำไม่ได้ ถ้าเราหมั่นสวดมนต์ภาวนาตั้งจิตอธิษฐานในความดี ทั้งเพื่อตนและคนอื่นอย่างแท้จริงแล้ว เราก็จะได้รับผลแห่งความดีได้จริงเช่นเดียวกัน
บทสวดมนต์ที่เป็นมหาสิริมงคล ทั้ง 9 บทนี้ ผู้ที่นำไปสวดอยู่เสมอก็จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน การสวดมนต์นั้น อาจเป็นปัญหาของใครหลาย ๆคนว่า ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ไม่รู้จะสวดมนต์อย่างไร หรือ ไม่รู้จะให้ใครนำแล้วจะทำตามอย่างไร
หากตอนนี้เรายังสับสนว้าวุ่นใจอยู่ก็ขอให้ปล่อยวางใจให้นิ่งสักพัก วางตัวสบาย ๆไม่ต้องเคร่ง ไม่ต้องกังวลอะไร ปล่อยใจให้ว่าง และ พยายามรักษาปากเอาไว้ให้ดี เพราะปากเป็นช่องทางผ่านของการสวดมนต์ รักษาปากคือการรักษา วาจา ไม่ให้พูดเท็จ ไม่ให้พูดส่อเสียด ไม่ให้พูดหยาบคาย ไม่ให้พูดเพ้อเจ้อ หากรักษาศีลทางวาจา ได้ การสวดมนต์ก็จะบรรลุผลได้เต็มร้อย ยังความเป็น สิริมงคลมาให้ผู้สวดมนต์อย่างแน่นอน
ใส่ความเห็น